เพื่อนรอบกายฉันมักจะตกหลุมรักกับหนุ่มๆรุ่นราวคราวเดียวกันเสมอ ก็ในเมื่อวัยใกล้เคียงกันก็ย่อมได้เจอกันบ่อย มีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน มีแล้วมันกระชุ่มกระชวยหัวใจ บลา บลา บลา
แต่ฉันเก๋กว่า เพราะฉันตกหลุมรักคนอายุมาก..มากกว่าเยอะเสียด้วย
ตอนเด็กๆฉันฟังเพลง ล่ำบึ้ก ของสองสาวไทรอัมป์คิงด้อมแล้วเกิดความหงุดหงิดแกมไม่เชื่อในท่อนที่ร้องว่า “..แม้ว่าเขาจะดูแก่ เหมือนว่าเขาเป็นเพื่อนแม่ แต่ฉันไม่เคยสนใจ..”
โอเค..เราตกหลุมรักกับคนที่อายุมากกว่าได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ฉันเชื่อว่าเด็กผู้หญิงทุกคนคงเคยแอบชอบรุ่นพี่มาด้วยกันทั้งนั้น ..แต่รุ่นราวคราวแม่เนี่ยนะ มันจะเป็นไปได้ยังไง?
เป็นไปได้แฮะ..
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา 22 ปีของฉัน เคยชอบผู้ชายวัย 40 ขึ้นไปอยู่สองครั้งสองครา (ไม่นับบรรดาคนที่อยู่ตามสื่อแล้วฉันแอบปลื้มอยู่ฝ่ายเดียวนะ)
คนแรกเป็นเพื่อนของน้าฉันเอง ตอนนั้นฉันอายุ 16 ย่าง17 ปี อยู่ในวัยเซเว่นทีนที่กำลังวิ่งตามความฝัน วันนั้นน้าชวนฉันไปดินเนอร์ในโรงแรมกับเพื่อนน้าที่เรียนปริญญาโทด้วยกัน
แหงสิ..ชอบอยู่แล้ว ได้ไปกินข้าวในที่สวยๆ ฉันมักแพ้แสงไฟสีเหลืองนวล เบาะนุ่มๆ และอาหารเลิศรส – แม้ว่าอาจจะต้องนั่งเจื่อนท่ามกลางผู้คนมีอายุ และอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ตาม
แล้วเขาก็ปรากฏตัวขึ้น – นั่งตรงข้ามฉัน
ก่อนอื่น ฉันขออธิบายอาการเต้นของหัวใจฉันก่อน มันแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
- ประเภทแรก คืออาการตื่นเต้นทั่วไป มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่ฉันต้องออกไปพูดหน้าห้อง หรืออยู่หลังเวทีเตรียมการแสดงสักอย่างอยู่ โดยมากอาการนี้จะเกิดขึ้นในชั่ววูบก่อนที่โชว์จะเริ่ม และจะหายไปเองเมื่อฉันเริ่มต้นจับไมค์และพูดออกไป เป็นการใจเต้นเพื่อทำลายสมาธิของตัวเอง
- ประเภทที่สอง ใจเต้นเมื่อเจอคนที่ถูกชะตา เคยไหม เดินๆอยู่แล้วมีใครคนหนึ่งเดินสวนเรามา แว่ปแรกที่เราเห็นเขา จู่ๆหัวใจเราก็เต้นแรงขึ้น เหมือนหัวใจหล่นวูป ถ้านึกไม่ออก ลองนึกถึงช่วงเวลาที่พวกคุณเจอศิลปินที่ชื่นชอบโดยบังเอิญดู การเต้นของหัวใจแบบนี้ ไม่ได้เกิดเฉพาะเวลาเจอเพศตรงข้ามเท่านั้น ครั้งหนึ่งฉันเคยเดินสวนกับดีไซน์เนอร์หญิง ความสง่าของเธอทำให้หัวใจของฉันหล่นวูป ยิ่งถ้าได้พูดคุยกันต่อ เขาจะทำให้เรายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
- ส่วนประเภทสุดท้ายนั้น คือการใจเต้นเมื่อเราเจอคนที่ชอบ อาการนี้ใจมันจะเต้นเหมือนรัวกลอง แม้ว่าเราจะห้ามตัวเองแล้วว่า อย่านะ จะตื่นเต้นไปทำไม แต่พอเราเจอเขาทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะรัวกลองเป็นจังหวะร็อค ยิ่งเขาคนนั้นมาทำอะไรให้ หรือมีเหตุที่ทำให้เราคิดไปเอง ใจมันจะทั้งเต้นทั้งหล่นวูปไปในเวลาเดียวกัน มักเกิดขึ้นบ่อยในระยะสปาร์คของความสัมพันธ์
..วกกลับมาที่เรื่องผู้ชายวัยสี่สิบ
วินาทีที่เขาหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามฉันนั้น ใจฉันเต้นแบบประเภทสอง อาจเพราะรอยยิ้มภายใต้กรอบแว่นพลาสติกสีดำ การแต่งกาย หรืออะไรก็ตาม ..ฉันตกหลุมรักเขา!
น้าแนะนำให้เรารู้จักกัน ฉันสวัสดี เขายิ้ม รับไหว้ แล้วเราก็เริ่มต้นพูดคุยกัน(บทสนทนาตอนนั้นจะมีอะไรได้ นอกจากเรื่องคณะในฝันของฉัน)
บิงโก!..เขาเคยทำงานในวงการโฆษณา
เขาเล่าเรื่องสมัยทำงานให้ฟัง ความเครียดในวงการนี้ เพื่อนร่วมงานนู่นนี่ (ถึงจุดนี้ใจฉันเต้นเป็นแบบสามแล้ว)
ในเวลาที่เขาพูด เหมือนมีอะไรบางอย่างแผ่อยู่รอบตัวเขา อะไรบางอย่างที่เรียกว่า เสน่ห์ ที่ทำให้เขาช่างน่ามอง น่าฟัง เสน่ห์แบบนี้มันไม่ได้เกิดกับทุกคนหรอกนะ แม้ว่าคนตรงข้ามคุณจะหล่อแบบพระเอกเกาลีแค่ไหนก็ตาม มันเป็นอะไรที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ ฉันเริ่มวางแผนในหัวว่าฉันจะสานต่อความสัมพันธ์นี้ยังไงดี
……
ขณะที่ฉันกำลังฝันหวาน ..โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
นั่นไงล่ะ.. ภรรยาเขาโทรมา
หลังจากวางหู เขาหันไปคุยกับน้าฉันเรื่องลูกสาวเขาที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน คุยไป ยิ้มไป ดูท่าทางเห่อลูกมาก
โอ้… วอท อะ แฟลิมี่ แมน
เอาน่า ถึงฝันฉันจะสลาย แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าเพลงล่ำบึ้กที่บอกว่าเราสามารถตกหลุมรักคนรุ่นราวคราวแม่ได้น่ะ มันเกิดขึ้นได้จริง
แถมยังเกิดขึ้นกับตัวฉันเองด้วยสิ!