6 มกรา

02/01/2014

ฉันบังเอิญเจอคุณ

“ไปไหนมา” คุณถาม

คำถามที่ไม่รู้จะตอบยังไง ยาวเกินไปที่จะเล่า

เรายืนคุยกัน คุณบอกจะไปกินกาแฟ ชวนฉันไปด้วย

ฉันบอกว่าเดี๋ยวฉันมา คุณยืนรอตรงนี้นะุ

เราเดินคุยกันตลอดทาง คุยเรื่องกินกาแฟ ร้านกาแฟ ทริปปีใหม่ไปไหนมา  ขับรถทางไกลครั้งแรกไปที่ไหน

คุณบอกจะให้สมุดแพลนเนอร์ฉันอีก ฉันพูดติดตลกไปว่าไม่เป็นไร เอาไว้คุณได้อีกเล่มค่อยให้ก็ได้

“เอาไปสิ ไม่เป็นไร”

ถึงร้านกาแฟ คุณยืนอยู่ข้างหลัง ยื่นหน้ามาพูดพอให้พนักงานหลังเค้าท์เตอร์ได้ยิน ..สั่งเลย เดี๋ยววันนี้เลี้ยง

“เลี้ยงกาแฟปีใหม่ :)” หันมาบอกฉันแล้วยิ้มให้

 

“ลองถามเค้าดูมั๊ย ว่าภาคใต้มีสตาบัคที่ไหนบ้าง”

พนักงานตอบอย่างฉะฉาน คุณทำหน้าเซ็ง

“พนักงานคนนั้นเป็นคนใต้แน่เลย”

 

“นั่งตรงไหนดีครับ”

ฉันเลือกโต๊ะตัวเล็ก นั่งหันหน้าเข้าหากัน คุณบอกคุณจะมานั่งทำงาน กลายเป็นคุยกับฉันเป็นชั่วโมง

ถึงเวลาที่ฉันจะกลับแล้ว

“ขออยู่ต่อได้มั๊ยอะ ยังไม่ได้คิดงานเลย”

ฉันทำท่าเซ็ง บอกออกไปว่า ไม่ชอบเดินคนเดียว งั้นนั่งก่อนก็ได้

“เดี๋ยวนั่งนานนะ ไม่กลับเหรอ”

“อีกแป๊บนึง ตื้อให้กลับด้วยกันอยู่” ฉันตอบ

คุณก้มลงไปอ่านหนังสือ ซักพักก็เงยหน้าขึ้นมายิ้ม “ป่ะ..กลับก้อได้”

“ให้ช่วยถืออะไีรมั๊ย” แล้วเปิดประตูให้ฉันเดินออกไปก่อน

 

“เปิดปีใหม่นี้ไม่ค่อยดีเลย เซ็งๆ ไม่ค่อยหนุก..”

..

จำไม่ได้แล้วว่าคุยอะไรกัน

ฉันกำลังเสพบรรยากาศรอบตัวระหว่างทางที่ดูดีไปซะหมด

..

 

“บ๊ายบายคับ” ประตูลิฟท์เิปิด ฉันยิ้มให้เขาแล้วเดินเข้าไปข้างใน

 

 

เกลียว

26/12/2011

บางทีความเป็นไปได้อาจเท่ากับศูนย์..

ถ้าชีวิตอยู่ได้ด้วยความหวัง

ความรู้สึกของช่วงเวลาที่ผ่านมา คงเรียกได้ว่า เป็นเหตุผลของการมีชีวิตอยู่

บอกไม่ถูก.. ไม่สุขมาก แต่ก็ไม่เคยทุกข์

เป็นชีวิต 15 วันที่หัวใจไม่วุ่นวายเลยแม้แต่น้อย

เหมือนถูกใส่ไว้ในลิ้นชัก เพียงรอเวลาออกมาโลดแล่น

ณ ช่วงเวลาที่ความหวังถูกทำลายลง

หากจะพูดว่า “ไม่รู้จะใช้ชีวิตอยู่ไปทำไม” ก็ดูจะไม่เกินจริงไปนัก

..ความรู้สึกบิดเบี้ยวต่างๆ มันคงพัวพันกันเป็นเส้นใยบางๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตา

แต่เรารู้สึกถึงความหนุนแน่นของมันอยู่ตลอด

เส้นใยที่ร้อยเอาหลายๆความรู้สึกมาบิดเป็นเกลียว – แก้ไม่ออก

เราไม่มีทางรู้, มันอาจจะลุกเป็นไฟ หรือบิดม้วนกันจนกลายเป็นก้อนไหมแสนนุ่ม เหมาะสำหรับถักผ้าพันคอแก้หนาว

….

เมื่อความหวังริบหรี่

เมื่อความหวังผุพังลง

เมื่อรู้ว่าไม่มีความหวัง..

เราคงต้องปล่อยให้ความเป็นไปได้ได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง

ยอมรับว่ามันไม่มีทางจะกลายเป็นผ้าพันคอแสนนุ่มได้

ยอมรับ

ว่าความเป็นไปได้ มันคือการสูญเสีย

และยอมรับ

ว่าความเป็นไปได้, มันเท่ากับศูนย์.

Givenchy Haute Couture

08/08/2010

Givenchy Haute Couture  Fall/Winter 2010/2011

I can feel it ..

It was fascination..

16/04/2010

มันเป็นวันที่อุณหภูมิในตัวของฉันร้อนผิดปกติ

ผลักประตูเข้าไปในร้านกาแฟ ลมโชยจากเครื่องปรับอากาศพัดเอากลิ่นกาแฟที่กลั่นจากเครื่องชงลอยเข้ามาแตะจมูก

วันนี้ร้านกาแฟดูไม่เหมือนเดิม ..ใครบางคนนั่งอยู่ตรงมุมนั้น

สมองฉันเริ่มทำงาน ค่อยๆเค้นความทรงจำเกี่ยวกับเขาออกมา 

สายลมชั่ววูปในฤดูฝนปีที่แล้ว.. ช่วงที่ชีวิตฉันถูกฉาบด้วยวิมานเลื่อนลอย คุณนั่นเอง ฉันจำรอยยิ้มคุณได้ มีไม่กี่คนนักหรอกที่ทำให้ฉันประทับใจได้ในครั้งแรกที่เจอ ฉันเกือบจะลืมคุณไปเสียแล้ว เพราะสิ่งที่เรียกว่าเหตุผลของการเชื่อมต่อ ..ฉันแน่ใจว่าเราสองคนไม่มีทางจะโคจรมาพบกันได้อีกเป็นครั้งที่สอง

กลิ่นกาแฟจากถ้วยกาแฟตรงหน้าเรียกให้ฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

หยิบพ็อกเก็ตบุ๊คขึ้นมาอ่าน แต่สายตาไม่ได้โฟกัสที่ตัวหนังสือ ดูภายนอก คุณดูไม่ใช่คนพิเศษอะไร ผู้ชายธรรมดาทั่วไป ออกจะไม่ใช่ไทป์ที่ผู้หญิงรอบตัวฉันจะชอบด้วยซ้ำ แต่บางอย่างลึกลงภายในตัวคุณมันดึงดูดให้ฉันอยากจะเข้าไปทำความรู้จัก ฉันคงต้องเป็นฝ่ายเริ่ม ชีวิตคนเราอาจไม่โชคดีได้รับโอกาสถึงสามครั้งหรอก

สายลมเย็นๆพัดเข้ามาอีกครั้ง..

ความสัมพันธ์ประหลาด ภาพที่มองเห็น คุณนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมเดิม ฉันนั่งที่โซฟาของฉัน หากเราสองคนกำลังคุยกัน ความสัมพันธ์เป็นขั้นตอน ไม่ก้าวกระโดด ใช้เวลาจากน้อยไปมาก ไม่เร่งรีบรวบรัด เริ่มต้นด้วยคำว่า “สวัสดี” คำทักทายพื้นฐานเวลามนุษย์จะเริ่มปฏิสัมพันธ์ บทสนทนาลดระยะห่างลงตามเวลาที่เคลื่อนไหว ผู้คนเดินสวนขวักไขว่ผ่านเราไปมาแต่ไม่มีใครทันสังเกตถึงมวลสารระหว่างระยะห่างของเราสองคน 

ความสัมพันธ์บิดเบี้ยวของคนบิดเบี้ยว บางทีอาจเป็นเพราะเราสองคนมีอะไรคล้ายกัน อาจในแง่ของความคิด และบางส่วนในจิตใจที่เราต่างขาดหาย ไม่มีคำพูดที่จะนำไปสู่ความรักใคร่ผูกพันธ์ เราเพียงแต่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เยียวยากันและกันเวลาที่เรารู้สึกไม่มีแรง โต๊ะไม้ในมุมของคุณ และโต๊ะโซฟาของฉัน แม้จะรู้สึกสนิทกันถึงเพียงไหน แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่เราสองคนจะเขยิบเข้ามานั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน ..ต่างฝ่ายต่างรับฟังกันอยู่ในมุมของตน

หากมองภายนอกคุณอาจเห็นเป็นเพียงแค่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง ต่างคนต่างเข้ามาจิบกาแฟ ผ่านมาผ่านไป แต่หากเป็นสถานที่ที่มีความหมายต่อฉันนัก แน่นอนชีวิตต้องก้าวต่อไป หลายครั้งที่โต๊ะมุมนั้นไม่มีคนมานั่ง ฉันนั่งจิบกาแฟคนเดียว ปล่อยให้ความคิดตกตะกอน, ใครบางคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ ได้รู้จัก เข้ามาในยามที่ชีวิตฉันอ่อนล้า

แค่ได้นึกถึง ..โลกสีทึมก็กลับชัด

fade away

15/04/2010

“It was fascination
I know
And it might have ended
Right then, at the start
Just a passing glance
Just a brief romance
And I might have gone
On my way
Empty hearted”

Fascination. – Nat King Cole

 

affair

23/01/2010

” ไม่มีคำถามเวลาทุกสิ่งงดงาม

ในวันนี้เมื่อฉันค้นหาคำตอบ

ว่าทำไม เราจึงหลุดไปสู่ความรักใคร่ชอบพอ

..”มันเป็นไปเอง”..

เมื่อพบว่าความรู้สึกระหว่างฉันกับเขามันดำดิ่งหนุนแน่น

อยู่แค่ตาหรือท่าทีสงบสำรวมต่อกัน

..

หากนั่นเป็นความเร้าใจไม่สิ้นสุด”

 

บางทีเป็นเพราะเราเป็นคนตะวันออก

เราถูกสร้างมาโดยสิ่งไม่ชัด ไม่มีตัวตน และไม่มีบทลงโทษ

แต่หากว่าเราทำผิด ..อย่างที่ความรู้สึกนั้นบอกว่ามันผิด

เราจะรู้สึกเหมือนเดินตรงเข้าสู่ลานประหารเลยเทียว

 

..ทางเดินนั้นยาวนัก

ทั้งที่คมมีดยังไม่ลงเนื้อ เราก็เจ็บปวดต่อความรู้สึกผิด ต่อประเพณี ต่อวัฒนธรรม ต่อสังคม

ซึ่งอาจเป็นคนใกล้ชิด หรือเป็นเพียงกลุ่มคนที่วิพากษ์กันอยู่อย่างเมามัน

 

..เพียงเพราะอำนาจของความไม่มีตัวตนนี่เอง

, ทำให้ฉันชะงักครั้งแล้วครั้งเล่า..

 

from Art Affair

 

if it kills me

16/01/2010

“Impossible, maybe

but worth one last try.

I’m sittin here, patiently, just for the chance that I might be able to hold you tight.

And I want to know what makes your world go round,

And I want to hear your voice for the sound.

A love that defines all ive had in my mind

Now I’m holding back nothing for the look in your eyes.

Now time is all tht we have.

So won’t you let me inside your perfect world for one night?”

 

 The Look by Ryan Tedder

red x’mas

21/12/2009

Nylon Paris เดือน January 2010

ฝีมือ Greg Kadel

ดูแล้ว อยากให้ถึงคริสมาสไวๆ

มันไม่ต้องเขียวแดง

แต่ด้วยเพราะคอสตูมและสี ก็ทำให้นึกถึงคริสมาสได้

merry x’mas จ่ะ

 

 

 

 

 

อธิบายความเหงาให้ฟังที

08/12/2009

How do you define the word “lonely”?

อารมณ์เหงามันเป็นยังไงกันนะ

เปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานดู เขาเขียนไว้ว่า เหงา หมายถึง เปลี่ยวใจ เปล่าเปลี่ยว ไม่คึกคัก

อืม…

นั่งฟังเพลงที่มีคำว่า “เหงา” อยู่ในชื่อเพลง แล้วพบว่าสาเหตุของความเหงามักมีอยู่ไม่กี่อย่าง – คิดถึงคนรักที่จากไป, อยากมีคนรัก และ อยากให้คนรักมาสนใจ

นั่นแปลว่าตัวแปรสำคัญที่จะก่อให้เกิดความเหงา

คือความสัมพันธ์สินะ

เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าฉันกำลังเหงา เลยอยากค้นใจตัวเองดูว่าเป็นอย่างที่เพื่อนว่าไหม

 …………………………

ถ้าความหมายของคำว่าเหงาคือความไม่คึกคัก มันก็อาจจะใช่ เพราะฉันไม่มีอารมณ์อยากออกไปไหนเลย ไม่อยากออกกำลังกาย ไม่อยากปาร์ตี้ ไม่อยากเข้าสังคม (แต่ก็ยังวนเวียนในโลก Social network อยู่ เพียงแต่เป็นการทำไปเพื่อการฆ่าเวลาทั้งสิ้น)

ปกติแล้วฉันเป็นคนอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้ ไม่เคยชินกับการนั่งทานข้าวหรือดูหนังคนเดียว เคยอ้วก เพราะความหดหู่ที่ต้องอยู่ในห้องทั้งวัน –อาการอย่างนี้มันเป็นพวกเสพติดสังคมชัดๆ

แต่ ณ เวลานี้ ฉันกลับไม่ต้องการใคร ไม่คิดถึงใคร – พยายามเสแสร้งว่าคิดถึงแล้ว แต่ก็รู้ดีว่าไม่ใช่(แล้วจะบิ๊วตัวเองทำไมก็ไม่รู้)

สิ่งที่อยากทำตอนนี้คือการนั่งคนเดียว ปล่อยความรู้สึกไปเรื่อยๆ อยากจะทำอะไรก็ทำไป มองฟ้า มองแสงไฟ การที่ฉันมานั่งเขียนอะไรอย่างนี้ก็เป็นเหมือนการบำบัดตัวเอง ให้ได้เรียบเรียงความคิด ค้นหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

อืม… 

สรุปแล้ว

ฉันว่าฉันไม่ได้เหงาหรอก

เพราะไม่มีใครมาทำให้ฉันรู้สึกอย่างนั้น(และฉันก็ไม่ต้องการด้วย)

ฉันอาจจะแค่…หงอย หง่าว ว่าง อินดี้ อึน – อะไรซักอย่างที่ไม่สามารถบัญญัติเป็นศัพท์ได้

และก็คงจะมีแต่คนที่บิดเบี้ยวเหมือนฉันเท่านั้นที่จะเข้าใจ..

.

.

.

* รูปนี้มันเหงาแบบบิดเบี้ยวดีเนอะ

things i like about coffee&you

07/12/2009